ตรวจสอบมาตรฐานซึ่งศูนย์ดูแลคนผู้สูงอายุที่ดีควรมี!
เมื่อพูดถึงการดูแลผู้สูงอายุให้สูงวัยอย่างสง่างาม มีตัวเลือกมากมายให้เลือก ทั้งบ้านพักคนชรา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต สถานพยาบาลและศูนย์ดูแลคนแก่มักใช้แทนกันได้ แต่มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างสถานที่ทั้งสอง บ้านพักฟื้นคนชรามักมีไว้สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมงและความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวัน ในทางกลับกัน ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจัดให้มีกิจกรรมทางสังคม และช่วยเหลือชีวิตประจำวันมากขึ้น แต่ไม่ได้เน้นให้การรักษาพยาบาลมากนัก อย่างไรก็ตามศูนย์ดูแลผู้สูงอายุก็ยังจำเป็นจะต้องมีมาตรฐานที่ดี เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ ว่าผู้สูงอายุควรที่จะเลือกเข้าไปเป็นสมาชิกหรือไม่ อย่างไร
บ้านพักคนชราหรือศูนย์ดูแลคนแก่ควรเลือกอย่างไร?
การเลือกใช้บ้านพักคนชราและศูนย์ดูแลคนแก่ ควรพิจารณาดังนี้
1. ความเหมาะสมกับความต้องการของผู้สูงอายุ
ควรพิจารณาว่าผู้สูงอายุต้องการการดูแลระดับใด และบ้านพักหรือศูนย์ดูแลคนแก่ที่เลือกต้องมีการให้บริการที่ตรงกับความต้องการนั้น ๆ
2. ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
ควรพิจารณาว่าสภาพแวดล้อมของบ้านพักหรือศูนย์ดูแลคนแก่มีความเหมาะสมกับสุขภาพและความต้องการของผู้สูงอายุหรือไม่
3. ความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการ
ควรพิจารณาว่าบ้านพักหรือศูนย์ดูแลคนแก่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่สะดวกสบายและเข้าถึงง่ายต่อผู้สูงอายุหรือไม่
4. ความปลอดภัย
ควรพิจารณาว่าบ้านพักคนชราหรือศูนย์ดูแลคนแก่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ผู้สูงอายุหรือไม่
5. ค่าใช้จ่าย
ควรพิจารณาว่าค่าบริการของบ้านพักหรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเป็นไปตามที่เราต้องการและเหมาะสมกับสภาพการเงินของผู้สูงอายุหรือไม่
นอกจากนี้การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านผู้สูงอายุขึ้นอยู่กับความต้องการ และสภาพความพร้อมของผู้สูงอายุแต่ละราย และสามารถเลือกใช้แบบที่ตรงตามความต้องการของผู้สูงอายุได้ ตามความเหมาะสมและความสะดวกสบายของผู้สูงอายุแต่ละราย สำหรับบ้านผู้สูงอายุที่มีให้เลือกมากมายในตอนนี้ จึงควรศึกษาข้อมูลและตรวจสอบความเหมาะสมก่อนที่จะเลือกใช้บริการนั้น ๆ
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ดี ต้องมีมาตรฐานอะไรบ้าง
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ดีควรมีมาตรฐานดังนี้
1. เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการรับรอง
ศูนย์ควรมีบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมและมีคุณภาพ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล นักบำบัด และผู้ดูแล ซึ่งมีความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุและสามารถให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้เมื่อจำเป็น
2. การดูแลส่วนบุคคล
ศูนย์ควรให้การดูแลและการสนับสนุนส่วนบุคคลตามความต้องการส่วนบุคคลของผู้พักอาศัยแต่ละคน รวมถึงการดูแลทางการแพทย์ กิจกรรม และการเข้าสังคม
3. ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
ศูนย์ควรจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้อยู่อาศัย มีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขา
4. สิ่งอำนวยความสะดวกที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ
ศูนย์ควรรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง ห้องพักอาศัย และห้องน้ำ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อและโรคต่างๆ
5. อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
ศูนย์ควรจัดเตรียมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและสมดุลซึ่งตรงกับความต้องการด้านอาหารของผู้อยู่อาศัย และรองรับความต้องการพิเศษด้านอาหารตามความจำเป็น
6. กิจกรรมนันทนาการ
ศูนย์ควรมีกิจกรรมสันทนาการและกิจกรรมทางสังคมที่หลากหลาย รวมถึงโปรแกรมการออกกำลังกาย ชั้นเรียนศิลปะ และการออกนอกบ้าน เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทั้งทางร่างกายและจิตใจของผู้อยู่อาศัย
7. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
ศูนย์ควรรักษาการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับผู้อยู่อาศัย ครอบครัว และผู้ดูแล และให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือ เนอสซิ่งโฮม สามารถให้การดูแลและการสนับสนุนที่มีคุณภาพสูงแก่ผู้อยู่อาศัย ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพและความสุขในปีทองของพวกเขา
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วยเหลือผู้สูงอายุในชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง
การช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุในการดำเนินชีวิตประจำวันสามารถสรุปได้ดังนี้:
1. การดูแลสุขภาพ
ช่วยให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารที่มีสารอาหารเพียงพอและเหมาะสมกับสภาพของผู้สูงอายุ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น การเดินเป็นประจำ
2. การดูแลสุขอนามัย
ช่วยดูแลสุขอนามัยของผู้สูงอายุโดยให้พวกเขาได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ และมีการรักษาโรคอย่างเหมาะสม
3. การดูแลสภาพแวดล้อม
การดูแลสภาพแวดล้อมของผู้สูงอายุโดยการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมในบ้าน เพื่อให้เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงการดูแลความสะอาดของบ้านและเครื่องใช้ในบ้าน
4. การดูแลสังคม
ช่วยให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมที่เหมาะสมและส่งเสริมการสื่อสารกับคนในสังคม เช่น การเข้าร่วมกลุ่มชมภาพยนตร์ การเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน หรือการพบปะกับเพื่อนบ้าน
5. การดูแลจิตใจ
ช่วยสร้างสภาพจิตใจที่ดีและผ่อนคลาย โดยการพูดคุย ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือการทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตใจที่ดี
หากคุณกำลังเลือกหาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ดี เลือกเรา Asia Nursing Home เราคือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ทำหน้าที่มาได้ดีมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และเรายังได้รับรองมาตรฐานคุณภาพ พร้อมได้รับรางวัลและใบประกาศ (Award and Certificates) มากมาย และยังการันตีด้วยราคามากมาย ได้แก่
- รางวัลบ้านพักผู้สูงอายุต้นแบบ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
- รางวัลอันดับที่ 1 มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ DBD Wellness Service Award : Best Practice 3 ปีซ้อน โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
- รางวัลสถานบริการดูแลผู้สูงอายุดีเด่น 2017 โดย กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- รางวัลผู้บริหาร โดดเด่นสถานประกอบการขนาดเล็ก 2019 Outstanding Entrepreneur Awards โดยกรมพัฒนธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย
- ได้รับการรับรองมาตรฐานISO 9001 : 2015 มาตรฐาน ISO ที่แรกที่เดียวในประเทศไทย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ไหนดี
เพราะการวางแผนก่อนอยู่บ้านพักคนชรา เพื่อความสุขในวัยเกษียณเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จึงมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกศูนย์ดูแลมีดังนี้
1. ที่ตั้ง: เลือกศูนย์ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ครอบครัวและเพื่อน ๆ เข้าถึงได้ง่าย
2. ชื่อเสียง: ศึกษาชื่อเสียงของศูนย์และอ่านบทวิจารณ์จากผู้อยู่อาศัยคนอื่นๆ และครอบครัวของพวกเขา
3. บริการและสิ่งอำนวยความสะดวก: ตรวจสอบบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ เช่น การรักษาพยาบาล กิจกรรมสันทนาการ และแผนมื้ออาหาร และให้แน่ใจว่าตรงกับความต้องการของคุณ
4. คุณสมบัติพนักงาน: ตรวจสอบคุณสมบัติและประสบการณ์ของพนักงาน ทั้งแพทย์ พยาบาล นักบำบัด และผู้ดูแล
5. ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าศูนย์มีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น ระบบตอบรับเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
6. ความสะอาดและสุขอนามัย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าศูนย์รักษาสิ่งอำนวยความสะดวกที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง ห้องพักอาศัย และห้องน้ำ
7. ค่าใช้จ่าย: พิจารณาค่าใช้จ่ายของศูนย์และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
8. อัตราส่วนผู้พักอาศัยต่อพนักงาน: ตรวจสอบอัตราส่วนผู้พักอาศัยต่อพนักงานและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพียงพอที่จะให้การดูแลและเอาใจใส่เป็นส่วนตัว
9. นโยบายการเยี่ยมเยียน: ตรวจสอบนโยบายการเยี่ยมเยียนของศูนย์และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามความต้องการของคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนครอบครัวและเพื่อน
nursing home vs ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง: แตกต่างกันอย่างไร?
ข้อแตกต่างระหว่าง nursing home และศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงคือ โดยทั่วไปแล้ว nursing home เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้และต้องการความช่วยเหลือในการดูแลและอาหาร ในขณะที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะที่ต้องการการดูแลทางการแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์เป็นพิเศษ เช่น ผู้ป่วยหลังผ่าตัด หรือผู้ที่ต้องการการดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด ดังนั้น การเลือกใช้ nursing home หรือศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพแวดล้อมของผู้ป่วยแต่ละราย และควรพิจารณาด้วยความรอบคอบก่อนตัดสินใจ